New York I Love You นิวยอร์ค นครแห่งรัก

01:19

New York I Love You นิวยอร์ค นครแห่งรัก







New York, I Love You นิวยอร์ค นครแห่งรัก (UNITED HOME ENTERTAINMENT)

กำหนดฉาย New York, I Love You : 15 ตุลาคม 2552
New York, I Love You ฉายเฉพาะที่ Apex Siam Square / SF World Cinema / SFX Emporium เท่านั้น

นับตั้งแต่ภาพยนตร์ถือกำเนิดขึ้นมา นิวยอร์คคือเมืองในฝันของโลกเซลลูลอยด์ ด้วยผู้คนมากมายหลายแบบ, ตึกสูงเสียดฟ้าคณานับ, วัฒนธรรมผสมผสาน และเรื่องราวความรักสารพัน รวมเป็นฉากหลังอันสมบูรณ์แบบสำหรับภาพยนตร์แอ็คชั่น, คอเมดี้, ดราม่า และแนวอื่น ๆ เมืองที่โด่งดังแห่งนี้ปรากฏโฉมบนจอภาพยนตร์มาเป็นจำนวนหลายพันเรื่อง กระทั่งถึง New York, I Love You ภาพยนตร์ที่ทั้งสดใหม่และแตกต่าง ซึ่งเพ่งมองเมืองนิวยอร์คผ่านดวงตาแห่งความรัก หลากหลายแง่มุม ตั้งแต่รักแรก, รักอันรวดร้าว, รักชั่วแล่น จนถึงรักแท้ที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์

New York, I Love You คือภาพยนตร์เรื่องที่สองในซีรีส์ "เมืองแห่งความรัก" ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างท้วมท้นมาแล้วจากเรื่องแรก Paris je t’aime โดยผู้อำนวยการสร้าง เอ็มมานูเอล บองบิฮาย ที่ผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกับมารินา กราซิค (ผู้อำนวยการสร้าง Crash) ผลงานสร้างสรรค์โดยกลุ่มผู้กำกับภาพยนตร์ฝีมือเยี่ยมทั่วโลก ได้แก่ เจียงเหวิน, มิรา แนร์, ชุนจิ อิวาอิ, อีวอง อัตตาล, เบร็ท แรทเนอร์, อัลเลน ฮิวส์, เชคาร์ กาปูร์, นาตาลี พอร์ทแมน, ฟาตีห์ อาคิน, โจชัว มาร์สตัน และแรนดี้ บัลส์เมเยอร์ พวกเขาจะนำผู้ชมไปสัมผัสชีวิตที่แท้จริงของชาวนิวยอร์ค ในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาความรัก ผ่านตัวละครมากหน้าที่รับบทโดยขบวนนักแสดงชื่อดังอย่าง แบรดลีย์ คูเปอร์, จัสติน บาร์ธา, แอนดี้ การ์เซีย, เฮย์เด็น คริสเทนเซ่น, ราเชล บิลสัน, นาตาลี พอร์ทแมน, ไอร์ฟาน ข่าน, เอมิลี่ โอฮาน่า, ออร์แลนโด บลูม, คริสติน่า ริชชี่, แม็กกี้ คิว, อีธาน ฮอว์ค, แอนตัน เยลชิน, เจมส์ คาน, โอลิเวีย เธิร์ลบี, เบลค ลีฟลี่, ดรีอา เดอ มัทเทโอ, จูลี่ คริสตี้, จอห์น เฮิร์ท, ไชอา เลอเบิฟ, ยูเกอร์ ยูเซล, เทย์เลอร์ เกียร์, คาร์ลอส อาคอสต้า, ยาซินดา บาร์เร็ทท์, ซูฉี, เบิร์ท ยัง, คริส คูเปอร์, โรบิน ไรท์ เพนน์, เอวา แอมมูรี, อีไล วอลแลช และคลอริส ลีชแมน



New York, I Love You

New York, I Love You

New York, I Love You

New York, I Love You

New York, I Love You

New York, I Love You




นิวยอร์ค : แด่รักด้วยรัก

เจียงเหวิน ที่ Chinatown


หนุ่มนักล้วงกระเป๋า (เฮย์เด็น คริสเทนเซ่น - Star Wars, Jumper) พบภาพถ่ายของสาวสวยคนหนึ่ง (ราเชล บิลสัน - Jumper, The O.C.) ในกระเป๋าสตางค์ที่เขาขโมยมา และในไม่ช้า เขาก็พบว่าตัวเองต้องต่อสู้กับชายอีกคน (แอนดี้ การ์เซีย - The Untouchables, Ocean's Thirteen) เพื่อแย่งชิงหัวใจของหญิงสาวคนนั้น

เจียงเหวิน ผู้ได้รับการเรียกขานว่านักแสดงชายที่โด่งดังที่สุดของจีน เป็นคนเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ตอนนี้ ผลงานที่สร้างชื่อให้เจียงเหวินเป็นที่จดจำมากที่สุดคือการประกบกงลี่ใน ภาพยนตร์ของจางอี้โหมวเรื่อง Red Sorghum ผลงานการแสดงเรื่องอื่นของเขาได้แก่ Hibiscus Town, Black Snow, The Emperor’s Shadow, The Soong Sisters และ Stay Cool เหวินกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกคือ In the Heat of the Sun ที่ชนะรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เวนิซ พร้อมกับได้รับรางวัลม้าทองคำ 6 สาขา ซึ่งรวมถึงสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย ผลงานกำกับเรื่อง Devils on the Doorstep ของเขาชนะรางวัลกรังด์ปรีซ์ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

บองบิฮายดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับเจียงเหวิน "เขา คือโรเบิร์ต เดอนิโรแห่งเมืองจีน เขาเป็นดาราใหญ่ และก็เป็นผู้กำกับที่มีความกล้ามากๆ ผมอยากทำงานกับเขาตั้งแต่ Paris je t’aime แต่โอกาสไม่อำนวย จนมาถึง New York, I Love You เขาก็ไม่ยอมพลาด"

ราเชล บิลสัน โด่งดังจากบทซัมเมอร์ โรเบิร์ตส ในภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง The O.C. "ฉันรัก Paris je t'aime ดังนั้น ฉันจึงดีใจมากที่ได้มาแสดงหนังแบบนั้นในนิวยอร์ค" เธอกล่าว "และเนื้อเรื่องตอนนี้ก็ช่างสมกับนิวยอร์ค บางคนขโมยกระเป๋าสตางค์ของคุณไป และเกิดเป็นเรื่องราวโรแมนติก ตอนฉันอ่านบท ฉันรู้สึกว่าอารมณ์ของเมืองนี้ได้ทาบทับลงมาในเรื่องจริง ๆ" บิลสันยังตื่นเต้นที่ได้มาแสดงคู่เฮย์เด็น คริสเทนเซ่นอีกครั้ง หลังจากเคยพบกันใน Jumper "ฉันชอบทำงานกับเฮย์เด็น เพราะฉันคิดว่าเขามีพรสวรรค์มาก"

New York, I Love You

New York, I Love You



มิรา แนร์ ที่ The Diamond District


พ่อค้าเพชรชาวอินเดีย (ไอร์ฟาน ข่าน - Slumdog Millionaire) และว่าที่เจ้าสาวคนหนึ่ง (นาตาลี พอร์ทแมน - Closer, Paris je t'aime) ได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษระหว่างการเจรจาซื้อขายเพชรเม็ดงาม เขานับถือศาสนาเชน ส่วนเธอนับถือศาสนายิว ทว่าความแตกต่างกลับสร้างช่วงเวลาที่น่าประทับใจ จนกลายเป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง

ภาพยนตร์ตอนนี้ถ่ายทำกันที่ย่านร้านขายเพชรพลอยในแมนฮัตตัน และกำกับโดย มิรา แนร์ ผู้กำกับหญิงที่สร้างชื่อจาก Salaam Bombay! ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ แนร์มีผลงานชั้นเยี่ยมมากมาย อาทิ Missisipi Masala, The Perez Family, Kama Sutra: A Tale of Love, My Own Country, The Laughing Club of India และ Monsoon Wedding ที่ชนะรางวัลสิงโตทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์เวนิซ และได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม

บองบิฮายพูดถึง New York, I Love You ตอนของแนร์ว่า "ตอนของมิราเป็นตอนที่ให้กำลังใจอย่างมาก และเข้าถึงหัวใจของช่วงเวลาอันยากที่จะอธิบายซึ่งจะเกิดขึ้นในเมืองอย่าง นิวยอร์คเท่านั้น มิราสร้างความฝันอันงดงามระหว่างพ่อค้าเพชรผู้นับถือเชน และหญิงสาวชาวยิว ที่แสดงให้เห็นว่า แม้ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์มากมาย แต่คนทั้งสองก็หาหนทางก้าวข้ามมันไปได้ มันเป็นตอนที่พิเศษมาก และคุณจะประทับใจกับมัน"

ไอร์ฟาน ข่านเคยร่วมงานกับมิรา แนร์ใน The Namesake และไม่อาจปฏิเสธการร่วมงานอีกครั้ง "การทำงานกับเธอทำให้เลือดลมฉีดพล่านตลอดเวลา เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา คราวนี้ก็เหมือนกัน ผมชอบเนื้อเรื่องและคนที่เล่าเรื่องนี้" ข่าน กล่าว

นาตาลี พอร์ทแมนไม่เคยทำงานกับมิรา แนร์มาก่อน ความจริงคือเธอไม่เคยร่วมงานกับผู้กำกับเพศหญิงคนใดเลย นอกจากภาพยนตร์ของนักศึกษา "มิราคือแรงบันดาลใจที่แท้จริงของฉัน เธอเป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา และเคร่งครัดเด็ดขาด โดยไม่สูญเสียความเป็นหญิงของเธอเลย ฉันโชคดีที่สุดที่มีโอกาสทำงานกับเธอก่อนที่ฉันจะลงมือกำกับหนังของตัวเอง"


ออร์แลนโด บลูม

ออร์แลนโด บลูม


ชุนจิ อิวาอิ ที่ The Upper West Side

นักดนตรีหนุ่มคนหนึ่ง (ออร์แลนโด บลูม - Pirates of the Caribbean) หมกตัวเองอยู่ในอพาร์ทเมนท์ เพื่อทำดนตรีประกอบให้ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องหนึ่ง เขาติดต่อกับโลกภายนอกด้วยโทรศัพท์มือถือและอีเมลผ่านทางหญิงสาวลึกลับ (คริสติน่า ริชชี่ - Monster, Speed Racer) ผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ เมื่อเธอฝากข้อความไว้ว่าเขาต้องอ่านนิยายสองเรื่องของดอสโตเยฟสกี เพื่อทำความเข้าใจงานสร้างสรรค์ชิ้นนี้ ชายหนุ่มจึงทำตามคำร้องขอ จนกระทั่งหญิงสาวมาปรากฏกายที่หน้าประตูห้องพักของเขา

ชุนจิ อิวาอิ หนึ่งในผู้กำกับที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในญี่ปุ่น คือผู้กำกับภาพยนตร์ตอนนี้จากบทของอิสราเอล โฮโรวิทซ์ (Sunshine) สไตล์ของอิวาอิเป็นที่คุ้นเคยกันดีที่บ้านเกิดของเขา จนเกิดเป็นคำนิยามที่เรียกกันว่า "ประณีตแบบอิวาอิ" ดังจะเห็นได้จากผลงานเรื่อง Love Letter, Swallowtail Butterfly, April’s Story, All About Lily Chou-Chou และ Hana and Alice

บองบิฮายติดใจในมุมมองแบบคนรุ่นใหม่ของอิวาอิ "เขาคือผู้กำกับหนุ่มผู้เป็นที่รักของคนรุ่นใหม่" บองบิฮายวิพากษ์ "เขาเป็นศิลปินตัวจริงผู้ทำทุกอย่างในหนังของเขา ทั้งกำกับ, ทำดนตรีประกอบ, ตัดต่อ และเขามีวิธีการมองโลกเป็นแบบฉบับของตัวเอง"

ภาพยนตร์ตอนนี้นำเสนอเกี่ยวกับความรักในศตวรรษที่ 21 "คุณจะได้เห็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากสารพัดสื่อ ทั้งคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, เครื่องตอบรับโทรศัพท์, หนังการ์ตูน, หนังสือ, ดนตรี" บองบิฮายสังเกต "มันคือโลกเสมือน แต่คุณก็จะเห็นความสัมพันธ์ที่แท้จริงค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น ผมชอบตอนจบของเรื่องนี้ ที่เป็นจุดเริ่มต้นความผูกพันของตัวละคร เพราะมันเต็มไปด้วยความหวังและการคาดหมาย"


อีวอง อัตตาล ที่ Soho


หนุ่มนักรักเจ้าคารม (อีธาน ฮอว์ค - Training Day) หว่านเสน่ห์ใส่สาวสวยสะท้านทรวงคนหนึ่ง (แม็กกี้ คิว - Mission Impossible III, Live Free or Die Hard) ที่หน้าภัตตาคารย่านโซโห และมารู้ภายหลังว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่ใครจะมาเกี้ยวพาราสีได้โดยง่าย

เรื่องราวชวนหัวตอนนี้สร้างจากบทภาพยนตร์ของโอลิวิเยร์ เลอโคท์ นักเขียนหนุ่มชาวฝรั่งเศส และกำกับโดย อีวอง ลัตตาล ผู้กำกับชาวอิสราเอลสายเลือดฝรั่งเศส อัตตาลเคยเป็นนักแสดงมาก่อนที่จะรับหน้าที่ผู้กำกับครั้งแรกใน My Wife Is an Actress ซึ่งนำแสดงโดย ชาร์ล็อต แก็งสบูร์ ภรรยาของเขาเอง ผลงานกำกับเรื่องต่อมาของเขาคือ And They Lived Happily Ever After ที่นำโดย จอห์นนี่ เดพพ์

บองบิฮายเล่าว่าอัตตาลก้าวเข้ามาพร้อมกับไอเดียมากมาย "เขานำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างกันจำนวนหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวกับคนที่กำลังสูบบุหรี่ในร้านอาหาร สองเรื่องที่เราเลือกมานั้นดีมาก มันช่วยทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์มากขึ้น ทั้งสองเรื่องเริ่มต้นจากอารมณ์ที่เซ็กซี่ซุกซนแบบเดียวกัน แต่มีตอนจบซึ่งแตกต่างจากที่คุณคาดเอาไว้"

เรื่องที่สองของอัตตาลเริ่มต้นเหมือนเรื่องแรก คือชายและหญิงเกิดต้องตาต้องใจกันระหว่างออกมาสูบบุหรี่นอกร้านอาหาร ครั้งนี้ ผู้หญิง (โรบิน ไรท์ เพนน์ - State of Play, Forrest Gump) เป็นฝ่ายจีบผู้ชายก่อน และฝ่ายชาย (คริส คูเปอร์ - American Beauty, Breach) ก็มีทีท่าสนใจเธอเช่นกัน แต่เมื่อทั้งคู่กลับมายังโต๊ะของตัวเองในร้าน ความลับที่พวกเขาปิดบังเอาไว้ก็ถูกเปิดเผย

"ฉันชอบตอนนี้ เพราะมันจะทำให้คุณประหลาดใจสุด ๆ" กราซิคกล่าว “เราคุยกันถึงฉากจบ ซึ่งมีทั้งจบแบบลงเอยด้วยน้ำตา หรือจบลงด้วยเสียงหัวเราะ แต่อีวอง อัตตาลนั้นเก่งกาจพอที่จะทำให้มันเป็นได้ทั้งสองแบบ"





เบร็ท แรทเนอร์ ที่ Central Park

เมื่อเภสัชกร (เจมส์ คาน - The Godfather, Misery) แนะนำให้หนุ่มน้อยอกหัก (แอนตัน เยลชิน - Charlie Bartlett, Star Trek) พาลูกสาวคนสวยของเขา (โอลิเวีย เธิร์ลบี - Juno) ไปร่วมงานพร็อม เจ้าหนุ่มจึงไปคอยหญิงสาวอยู่ในเซ็นทรัล พาร์ค และต้องเซอร์ไพรส์เมื่อพบว่าเธอนั่งอยู่ในรถเข็นคนพิการ แต่เขาก็พาเธอไปงานจนได้ เมื่อถึงเวลากลับบ้าน พวกเขาต้องเดินผ่านเซ็นทรัล พาร์คอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ความโรแมนติกที่แสนอัศจรรย์ได้ทำให้ความฝันของทั้งคู่กลายเป็นความจริง

เบร็ท แรทเนอร์ เจ้าของผลงานแอ็คชั่นเรื่องดังอย่าง Rush Hour, X-Men: The Last Stand, The Red Dragon และ After the Sunset คือผู้กำกับตอนนี้ เขาเสนอตัวไปยังบองบิฮาย ภายหลังรู้ข่าวโปรเจ็คท์นี้จากอีวอง อัตตาลผู้เป็นเพื่อน บองบิฮายเองก็สนใจที่จะได้ทำงานกับผู้กำกับจากฮอลลีวูดสักคน “ผมชอบสไตล์การนำเสนอแบบหนังอเมริกันของเขา นอกจากนี้เขายังเป็นผู้กำกับที่มีพรสวรรค์และฉลาดมากด้วย” บองบิฮาย กล่าว

แรทเนอร์พัฒนาบทภาพยนตร์ร่วมกับเจฟฟ์ นาธานสัน (The Terminal, Catch Me If You Can, Rush Hour 3) นักเขียนบทคู่ใจที่ร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน "เรื่องราวครึ่งหนึ่งคือชีวิตจริงของผม อีกครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องแต่ง" แรทเนอร์พูดทีเล่นทีจริง "แต่ สิ่งที่ผมชอบคือมันแตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ในหนังรักเรื่องหนึ่ง คุณอยากจะทั้งหัวเราะและร้องไห้ ซึ่งผมก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำให้ผู้ชมหัวเราะ ผมชอบดูหนังที่นำเสนอเกี่ยวกับความสดใสในวัยหนุ่มสาว และผมก็อยากจะทำหนังแบบนั้นเหมือนกัน"

ในฐานะชาวนิวยอร์คดั้งเดิม โอลิเวีย เธิร์ลบีบอกว่าเธอภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน New York, I Love You "ฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Paris je t'aime ฉันจึงดีใจมากที่ได้แสดงหนังเรื่องนี้" เธิร์ลบีกล่าว "เบร็ทกับฉันทำงานเข้าคู่กันได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นเพราะเราชอบการทำงานแบบคิดเดี๋ยวนั้น ทำเดี๋ยวนั้นเหมือนกัน เราพยายามทำให้หนังของเราสนุกและอ่อนหวานเท่าที่จะทำได้ และหวังว่าคนดูคงจะชอบมันเหมือนเรา"


อัลเลน ฮิวส์ ที่ Greenwich Village

หนุ่มสาวคู่หนึ่ง (แบรดลีย์ คูเปอร์ - The Hangover และดรีอา เดอ มัทเทโอ - The Sopranos) ต่างเร่งรุดไปหากัน คนหนึ่งวิ่งไป อีกคนไปทางรถไฟใต้ดิน เพื่อยืนยันให้อีกฝ่ายเห็นว่าค่ำคืนที่ผ่านมามีความหมายต่อชีวิตของพวกเขา เพียงใด ก่อนที่พวกเขาจะพบกันเป็นครั้งที่สอง

การเดินทางอย่างรีบเร่งในเมืองใหญ่ ถูกนำเสนอให้เห็นอย่างเด่นชัดใน New York, I Love You ตอนนี้ โดยการสร้างสรรค์ของนักเขียนบทดาวรุ่ง ซาน แคสซาเวทีส และผู้กำกับ อัลเลน ฮิวส์ เจ้าของผลงานโดดเด่นเรื่อง Menace II Society, Dead Presidents และ From Hell

ความคิดเห็นของผู้อำนวยการสร้างที่มีต่อผู้กำกับ อัลเลน ฮิวส์คือ เขาทำให้ทัศนียภาพของนครนิวยอร์คโดดเด่นขึ้นมาด้วยการผสมผสานภาพ, ดนตรี และเสียงประกอบให้เข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยม "ผมสนุกจริง ๆ ที่ได้ทำงานกับเขา เขาเป็นคนขี้อายและเก็บตัว แต่ขณะเดียวกัน ก็มั่นคงในความคิดของตัวเอง"

กราซิคก็ประทับใจในตัวผู้กำกับเช่นกัน "เขาสามารถทำให้เรื่องราวชัดเจนขึ้น ด้วยหลาย ๆ วิธี" เธอกล่าว "เรื่องราวในตอนนี้มีภาพที่ตรงข้ามกันมากมาย ดาวน์ทาวน์และอัพทาวน์, บนถนนและใต้ดิน รวมถึงการจับเอาอารมณ์ของชีวิตจริงที่เกิดขึ้นในเมืองตอนกลางคืน ฉากสุดท้ายที่คู่รักจูบกันนั้นเป็นฉากที่สวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา เลย"

แบรดลีย์ คูเปอร์ เพื่อนเก่าแก่ของฮิวส์ เตรียมพร้อมที่จะมาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ตั้งแต่นาทีแรกที่เขาได้อ่านบทของซาน "ทันทีที่ผมอ่านมัน ผมคิดว่าผมคือผู้ชายคนนั้น" เขากล่าว "เราทุกคนคงเคยเจอกับช่วงเวลาแบบนั้น เมื่อความกระวนกระวายทำให้เรามองไม่เห็นความจริง เมื่อเวลาและช่องว่างกีดกันเราจากคน ๆ หนึ่ง ผมชอบการทำให้เมืองนิวยอร์คเป็นตัวละครตัวหนึ่ง เมืองนี้กลายเป็นอุปสรรคสำหรับความรักของคนสองคนได้อย่างไร"

คูเปอร์ยังมีความสุขที่ได้ร่วมงานกับดรีอา เดอ มัทเทโอ "เราไม่เคยพบกันมาก่อน จนเมื่อเราไปทานมื้อค่ำกันวันหนึ่งก่อนที่เราจะถ่ายทำ ทันใดนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก เพราะเธอช่างเยี่ยมยอด เรามีเวลาถ่ายทำกันสองวัน กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่เช้ายันค่ำ แต่มันก็เป็นไปอย่างเรียบร้อย เพราะอัลเลนรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร"

ไชอา เลอเบิฟ

ไชอา เลอเบิฟ

ไชอา เลอเบิฟ

ไชอา เลอเบิฟ



เชคาร์ กาปูร์ ที่ The Upper East Side

นี่คือ New York, I Love You ตอนที่มีบรรยากาศเหนือจริงและหลอนหลอกที่สุดก็ว่าได้ อดีตนักร้องโอเปร่า (จูลี่ คริสตี้ - Away From Her, Afterglow) เข้าพักในโรงแรมสุดโปรด เพียงเพื่อมาดื่มแชมเปญกับเด็กรับใช้ของเธอ (ไชอา เลอเบิฟ - Transformers, Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull) ทันใดนั้น เมื่อมองผ่านไปยังผ้าม่านหน้าต่างบานหนึ่ง ก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ทว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือแค่ภาพลวงตา

การสร้าง New York, I Love You ตอนนี้กลายเป็นตอนที่สะเทือนใจที่สุดสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากแอนโทนี่ มิงเกลลา ผู้เขียนบทและวางแผนจะกำกับได้ป่วยหนักเสียก่อน แต่เป็นมิงเกลลาเองที่ตัดสินใจเลือกผู้กำกับคนใหม่ที่จะมาสานต่องานของเขา เชคาร์ กาปูร์เข้ามารับหน้าที่กำกับเรื่องนี้ แทนที่แอนโทนี่ มิงเกลลาผู้จากไป กาปูร์เริ่มต้นอาชีพผู้กำกับภาพยนตร์ที่อินเดียบ้านเกิด ก่อนจะมาโด่งดังกับผลงานเรื่อง Elizabeth ที่นำแสดงโดย เคท บลันเชทท์ และโจเซฟ ไฟน์ส ตามด้วย The Four Feathers และ Elizabeth: The Golden Age

"เขาเป็นคนเลือกเชคาร์ กาปูร์เอง" บองบิฮายย้อนความหลัง "เขาบอกผมว่าได้คุยเรื่องชีวิตและความตายกับเชคาร์อยู่นาน แต่พวกเขาก็ไม่ได้เห็นพ้องต้องกันไปหมดทุกอย่าง และนี่เองที่ทำให้แอนโทนี่บอกว่ากาปูร์เป็นตัวเลือกคนสำคัญ เพราะว่าเขามีมุมมองที่แตกต่าง แอนโทนี่นับถือคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองเสมอ แม้ว่ามันจะขัดแย้งกับความคิดของเขาก็ตาม เราโชคดีที่เชคาร์มีเวลาว่าง และเขาตอบตกลง"

กาปูร์ต้องรับมือกับเรื่องราวที่เล่นกับความผันแปรของเวลา, ความทรงจำ และจินตนาการ "เนื้อเรื่องเป็นเชิงนามธรรม, ลึกลับ และเกี่ยวข้องกับความตายด้วย" บองบิฮายเสริม "การทำหนังตอนนี้มีความเศร้ามากมาย แต่ผมคิดว่าเชคาร์สามารถทำให้แอนโทนี่มีความสุขนะ และสำหรับเราทุกคน มันเป็นส่วนที่พิเศษมากของหนังเรื่องนี้"

สำหรับกาปูร์ กุญแจสำคัญคือการเสาะหาหนทางเข้าไปสู่ห้องพักโรงแรมอันลึกลับที่สร้างสรรค์ โดยมิงเกลลา "เมื่อผมอ่านบทหนัง ผมถามแอนโทนี่ว่า "จริง ๆ แล้วมันหมายถึงอะไรกันแน่?" และผมก็รู้ได้ทันทีถึงพลังของคำถามนั้น ผมต้องค้นหาความหมายของหนังเรื่องนี้ด้วยการกำกับหนังเรื่องนี้ และต้องทำให้มันเป็นหนังที่ยอมให้ผู้ชมเข้าไปค้นหาความหมายของมันด้วย นั่นแหละคือความเหนือชั้นในการเขียนบทของแอนโทนี่"

ในส่วนของนักแสดง ผู้กำกับเล่าว่า "เรารู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มีมนต์ขลัง เราจึงต้องยิ่งทำให้มันน่าเลื่อมใส ด้วยการเลือกนักแสดงที่เป็นตำนานอย่างจอห์น เฮิร์ท และจูลี่ คริสตี้ ส่วนไชอา การพบกันครั้งแรกของเรานั้นน่าแปลกใจนิดหน่อย เขากำลังรอคอยบทแบบนี้อยู่พอดี เขารู้ว่ามันจะมา เมื่อผมพบไชอา เขาฝึกหัดการเดินและคิดหาสำเนียงการพูดไว้เรียบร้อยแล้ว ผมขอเรียกมันว่าพรหมลิขิต"


New York, I Love You

New York, I Love You



นาตาลี พอร์ทแมน ที่ Central Park

ยามบ่ายอันสดใสที่ลานน้ำพุในเซ็นทรัล พาร์ค เด็กหญิงผิวขาว (เทย์เลอร์ เกียร์) นั่งเล่นอยู่กับพี่เลี้ยงชายผิวดำ (คาร์ลอส อาคอสต้า) แต่เมื่อเวลาแห่งความสุขหมดลง และชายหนุ่มพาหนูน้อยไปส่งคืนแม่ของเธอ (ยาซินดา บาร์เร็ทท์) ความจริงบางอย่างจึงเผยตัวออกมา

นักแสดงสาวชื่อก้อง นาตาลี พอร์ทแมน เริ่มต้นงานกำกับครั้งแรกกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเธอยังเขียนบทเองด้วย พอร์ทแมนเข้าสู่วงการภาพยนตร์ตั้งแต่อายุ 12 ในผลงานกำกับของลูช เบซง เรื่อง The Professional หลังจากแสดงนำในภาพยนตร์มากมาย เธอก็ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งแรกจากบทบาทใน Anywhere But Here ขณะศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในสาขาจิตวิทยา พอร์ทแมนก็ยังมีผลงานการแสดงออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น Star Wars, Cold Mountain, Garden State, Closer (ซึ่งส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้ง), V for Vendetta, Hotel Chevalier, Paris je t’aime และ The Other Boleyn Girl

ใน New York, I Love You นอกจากการกำกับ พอร์ทแมนยังแสดงนำในตอนของผู้กำกับ มิรา แนร์ด้วย "มันเป็นโอกาสดียิ่ง ที่ได้ลองกำกับหนังสั้นสักเรื่อง" เธอกล่าว "ฉันชอบแนวคิดของ Paris je t'aime และ New York, I Love You เพราะว่ามันเปิดโอกาสให้ศิลปินมากมายได้มาถ่ายทอดความประทับใจแรกพบที่เขามี ต่อเมืองๆ หนึ่งในแง่มุมอันหลากหลาย ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับความรัก" บองบิฮายไม่ได้คาดหวังอะไรจากการกำกับครั้งแรกของพอร์ทแมน แต่เขาประทับใจกับบทภาพยนตร์ของเธอ "เธอเป็นนักเขียนมีฝีมือ" เขากล่าว "ตัวละครของเธอมีพัฒนาการ เรื่องราวก็สวยงามและมีพลัง"

พอร์ทแมนได้แรงบันดาลใจเรื่องนี้มาจากการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของนิวยอร์ค ระหว่างฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้งปี 2008 "เป็นปีที่ชาวนิวยอร์คได้ชมการโต้วาทีระหว่างเพศโดยฮิลารี คลินตัน และบารัค โอบามาบ่อยๆ แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะฉันต้องการสะท้อนถึงบางสิ่งเกี่ยวกับการหลบหนีไปจากความบีบคั้นของ เมือง การละเล่นของเด็กและการเต้นรำของพ่อนั้นดูขัดแย้งกับความแข็งกร้าวของตึกสูง ที่รายล้อมพวกเขาอยู่"

ระหว่างการถ่ายทำ พอร์ทแมนต้องเผชิญกับประสบการณ์สุดหิน “มันเป็นความท้าทายอย่างมาก และสิ่งที่ท้าทายที่สุดคือสภาพอากาศ มันเปลี่ยนแปลงถึง 40 ครั้ง ตลอดระยะเวลาถ่ายทำสองวันของเรา” บองบิฮายเสริมว่า “หนังตอนของเธอนี้ต้องถ่ายกันกลางแจ้งทั้งเรื่อง เธอต้องเจอฝน, ลม และอากาศเย็นยะเยือก หนำซ้ำนักแสดงนำของเธอก็เป็นเด็ก และมือสมัครเล่น (อาคอสต้ามีอาชีพเป็นแดนเซอร์) แต่เธอก็ทำมันออกมาได้อย่างวิเศษ ผมคิดว่าเธอทำให้เราเห็นถึงพรสวรรค์ใหม่ของเธอ"


ฟาตีห์ อาคิน ที่ Chinatown

เมื่อศิลปินคนหนึ่ง (ยูเกอร์ ยูเซล - นักแสดง, นักเขียน และผู้กำกับชาวตุรกี) ได้พบหญิงสาวชาวจีน (ซูฉี - Transporter) ผู้ทำงานในร้านขายชา เขาเกิดแรงบันดาลใจอย่างมาก จนต้องร้องขอให้เธอมาเป็นแบบให้เขาวาดภาพ แต่เธอปฏิเสธ จนเมื่อโชคชะตาผันแปร ศิลปินล้มป่วยลง หญิงสาวจึงได้เห็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเขา

ฟาตีห์ อาคิน ผู้กำกับสายเลือดเยอรมัน-เตอร์กิช เริ่มต้นงานกำกับครั้งแรกกับเรื่อง Short Sharp Shock ตามด้วย In July และภาพยนตร์สารคดีเรื่อง We Forgot to Return กับ Solino ผลงานเรื่องต่อมาคือ Head On ทำให้เขาเป็นที่จับตามองด้วยการพิชิตรางวัลโกลเดน แบร์ จากเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน นอกจากนี้ ผลงานล่าสุดเรื่อง The Edge of Heaven ของเขายังชนะรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 2007 จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

"ฟาตีห์คือศิลปินตัวจริงผู้มีสไตล์เฉพาะตัวที่ชัดเจนมาก" บองบิฮายชม "เขารู้จักตัวละครของเขาทุกตัว รู้ทุกสิ่งที่พวกเขาทำ และนี่เองที่ทำให้เขาสามารถใส่ความลึกให้ตัวละครได้ในช่วงเวลาจำกัด มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับโลกสองโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ต้องมาปะทะกันพร้อมกับความลึกลับและงดงาม ผมคิดว่ามันน่าตื่นเต้นมากสำหรับฟาตีห์ ที่ได้ร่วมงานกับดาราดังของจีนอย่างซูฉี ในเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นที่ไชน่าทาวน์"

อาคินอยากกำกับ Paris je t'aime แต่โอกาสไม่อำนวย ดังนั้น เขาจึงไม่ยอมพลาดเมื่อบองบิฮายติดต่อให้เขามากำกับ New York, I Love You แม้ว่าเขาไม่เคยอาศัยอยู่ในนิวยอร์ค แต่การเดินทางมาเที่ยวที่นี่ก็มอบความประทับใจไว้ให้เขาไม่น้อย "เมืองนี้และความกระฉับกระเฉงของมันส่งผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ต่อตัวผม" เขากล่าว "ผมหาเหตุผลดี ๆ ที่จะไม่กลับมานิวยอร์คเพื่อทำหนังสักเรื่องไม่ได้ มันเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด"

New York, I Love You

New York, I Love You




โจชัว มาร์สตัน ที่ Brighton Beach

คู่หญิงชายวัยไม้ใกล้ฝั่ง (อีไล วอลแลช - The Hoax และคลอริส ลีชแมน - The Last Picture Show) เดินทอดน่องช้า ๆ ไปตามทางเท้าของบรู๊คลิน เพื่อซึมซับบรรยากาศ และรำลึกถึงช่วงเวลาอันหอมหวานแห่งความรัก

เรื่องปิดท้ายของ New York, I Love You ที่สร้างสรรค์โดย โจชัว มาร์สตัน ผู้กำกับชาวนิวยอร์ค เจ้าของผลงานเรื่อง Maria Full of Grace ที่ชนะรางวัลมากมายจากหลายเทศกาล มาร์สตันตกหลุมรักแนวคิดของ New York, I Love You เช่นเดียวกับผู้กำกับคนอื่น "ผมอาศัยอยู่ในเมืองนี้ และเฝ้าสังเกตช่วงเวลาหรือความสัมพันธ์ดีๆ ที่น่าจะนำมาทำเป็นหนังเล็ก ๆ ที่งดงามสักเรื่องได้ แต่ไม่ค่อยมีใครยอมให้ทุนหรือจัดจำหน่ายหนังเล็ก ๆ แบบนั้น" เขาระบุ "ผมรักโอกาสที่จะได้เล่าเรื่องสั้นของนิวยอร์ค"

มาร์สตันพบว่าตัวเองมีไอเดียมากพอที่จะทำหนังสั้นสักหนึ่งโหล เขาอธิบายว่า "วิธีที่ผมเข้าถึงโปรเจ็คท์นี้คือการเขียนบทหนังที่แตกต่างกันทุกวันเป็น เวลาราวสองสัปดาห์ บางเรื่องติดอยู่ในหัวของผมมานานแล้ว หลายๆ เรื่องก็คิดไว้ไม่นาน มันทำให้ผมคิดถึงท้องที่ต่าง ๆ ของนิวยอร์ค ผมมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Jackson Heights, Williamsburg, the Upper West Side และผมก็นึกถึงชายหาดไบรท์ตันขึ้นมา เมื่อผมคิดถึงบริเวณนี้ ผมเห็นภาพคนชรานั่งอยู่บนสะพานไม้ และจ้องมองโลกของตัวเองที่หมุนผ่านไป นั่นคือที่มาของเรื่องนี้"

มาร์สตันพูดถึงการร่วมงานกับนักแสดงสูงอายุ "ทำงานกับคลอริสและอีไลนั้นเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ทั้งสองเคยร่วมงานกันมาก่อนตอนอยู่ Actors Studio ราว ๆ 50 หรือ 60 ปีก่อน แล้วก็ไม่ได้พบกันอีกเลย งานนี้จึงเหมือนการรำลึกถึงความหลัง เมื่อผมมองดูคลอริสและอีไลบนจอ ผมเห็นตัวละครที่ผมเขียนบทไว้มีชีวิตขึ้นมา ไม่มีอะไรจะสุขใจไปมากกว่านี้แล้ว"

ทันทีที่บองบิฮายได้อ่านบทหนังของมาร์สตัน เขารู้ทันทีว่ามันต้องเป็นบทส่งท้ายของ New York, I Love You "ผมรู้ว่ามันต้องเป็นตอนสุดท้าย เพราะว่ามันช่างเป็นเรื่องที่กระทบใจ เป็นความจริงของชีวิตคน เป็นเรื่องที่แตกต่างจากตอนอื่น ๆ แต่มันก็ยังมีความเป็นนิวยอร์คอยู่ดี” ผู้อำนวยการสร้างสรุป “โจชัวมักมีมุมมองทางสังคมในงานของเขาเสมอ เขาสามารถทำงานกับคนที่มีภูมิหลังและวัฒนธรรมที่แตกต่างได้อย่างสบาย เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องของเขานี้แสดงให้เราเห็นว่าความรักเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย"



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น